เครื่องอ่านบาร์โค้ด มีกี่ประเภท? สรุปความแตกต่างและวิธีเลือกใช้งานในปี 2025

เครื่องอ่านบาร์โค้ด มีกี่ประเภท? แบบมีสาย ไร้สาย ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์มือถือ และแบบสวมใส่

หากคุณกำลังจะเลือกซื้อ เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Barcode Scanner) ในปี 2025 คำถามแรก ๆ คือ “มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับงานของเรา?”


บทความนี้สรุปครบทั้งมุม เทคโนโลยีการอ่าน, รูปแบบอุปกรณ์, การเชื่อมต่อ, ระดับความทนทาน ตลอดจน วิธีเลือก และ ราคาระดับ เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายและคุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

🔎 ประเภทเครื่องอ่านบาร์โค้ดตามเทคโนโลยีการอ่าน

  • Laser (เลเซอร์ 1D): ยิงเส้นเลเซอร์อ่านโค้ดเส้น 1D เช่น EAN/UPC, Code 128, Code 39 จุดเด่นคือเร็ว ราคาเข้าถึงง่าย แต่ไม่อ่าน 2D
  • Linear Imager (CCD/Imager 1D): กล้องรับภาพบรรทัดเดียว อ่าน 1D ได้แม่นยำบนฉลากซีด/สะท้อนแสงดีกว่าเลเซอร์เล็กน้อย
  • Area Imager (2D Imager): กล้องถ่ายภาพทั้งเฟรม อ่านได้ทั้ง 1D และ 2D (QR, DataMatrix, PDF417, GS1-128) รวมถึงหน้าจอมือถือ เหมาะกับงานยุคใหม่
  • High/Extended Range: โมดูลอ่านระยะไกลเป็นพิเศษ เหมาะกับคลังชั้นสูงหรือยิงจากบนรถโฟล์คลิฟท์
  • Specialized Optics: สำหรับโค้ดจิ๋ว/ฉลากโค้ง/ฉลากสะท้อน (เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ การแพทย์)

🧩 ประเภทเครื่องอ่านบาร์โค้ดตามรูปแบบอุปกรณ์ 

  • มีสาย (Handheld Corded): เสียบ USB/RS-232 เหมาะกับจุดแคชเชียร์/ไลน์ผลิต ใช้งบน้อย เสถียร ไม่ต้องชาร์จ
  • ไร้สาย (Handheld Wireless): Bluetooth หรือ 2.4GHz เดินยิงได้อิสระ มี Cradle ชาร์จ เหมาะกับจุดรับ-จ่ายของ
  • ตั้งโต๊ะ/พรีเซนเตชัน (Presentation/Desktop): วางนิ่ง ๆ หน้าร้าน/แคชเชียร์ วางของผ่านหัวอ่านได้รวดเร็ว
  • สวมใส่ (Wearable/Ring Scanner): ใส่นิ้ว/ข้อมือ ใช้สองมือทำงานได้เร็วขึ้น เหมาะกับคลังหยิบสินค้า (Picking)
  • ติดตั้งประจำที่ (Fixed-mount): ฝังในไลน์คัดแยก/คอนเวเยอร์/คีออสก์ ยิงอัตโนมัติแบบไม่ต้องใช้มือ
  • โมบายคอมพิวเตอร์ (Mobile Computer): Android + สแกนเนอร์ในตัว รันแอป WMS/ERP ได้ เชื่อม Wi-Fi/4G เหมาะงานเคลื่อนที่จริงจัง
  • อุตสาหกรรมหนัก/ห้องเย็น/ป้องกันระเบิด: รุ่นที่ออกแบบพิเศษ เช่น IP67/68, กันฝุ่น-น้ำ, Freezer-rated, หรือมาตรฐาน ATEX/IECEx สำหรับโซนอันตราย

🔗 การเชื่อมต่อที่พบบ่อย

  • USB-HID/USB-COM: เสียบแล้วใช้ได้เลย เสถียร ค่าดูแลต่ำ
  • RS-232: ใช้กับเครื่องจักร/เครื่อง POS รุ่นเก่า
  • Bluetooth: เคลื่อนที่สะดวก ใช้กับ Cradle/PC/แท็บเล็ต/มือถือ
  • Wi-Fi: ใช้ใน Mobile Computer เชื่อมระบบแบบเรียลไทม์

📊 เปรียบเทียบประเภทหลักแบบย่อ

ประเภทเหมาะกับงานข้อดีสิ่งที่ควรพิจารณา
มีสาย (Handheld Corded)แคชเชียร์, จุดคีย์ข้อมูลหน้าคอมถูก, เสถียร, ไม่ต้องชาร์จระยะใช้งานจำกัด, สายเกะกะ
ไร้สาย (Handheld Wireless)รับ-จ่าย/แพ็กกิ้ง, เดินยิงคล่องตัว, ระยะทำงานกว้างต้องชาร์จแบต, จัดการ Cradle
ตั้งโต๊ะ (Presentation)หน้าร้าน, เคาน์เตอร์บริการยิงเร็ว ไม่ต้องถือเครื่องกินพื้นที่หน้าเคาน์เตอร์
สวมใส่ (Wearable/Ring)หยิบสินค้า (Picking) ปริมาณมากสองมือทำงาน, เร็วขึ้นต้องชินอุปกรณ์, งบสูงกว่าแบบถือ
ติดตั้งประจำที่ (Fixed-mount)คอนเวเยอร์, คีออสก์, สายการผลิตอัตโนมัติ ปริมาณสูงต้องเซ็ตตำแหน่ง/ระยะอย่างถูกต้อง
Mobile Computerคลัง/โลจิสติกส์/ภาคสนามสแกน+แอปในตัว, เชื่อมระบบสดราคาสูง, ต้องดูแผนอัปเดต Android

🧭 วิธีเลือกเครื่องอ่านบาร์โค้ดให้เหมาะกับงาน

  1. ชนิดบาร์โค้ด: ถ้ามีทั้ง 1D และ 2D (เช่น QR/GS1) เลือก 2D Imager ไปเลย คุ้มกว่า
  2. ลักษณะงาน: จุดประจำ = มีสาย / เดินคลัง = ไร้สาย / ปริมาณมาก = Wearable / ไลน์ผลิต = Fixed-mount / รวมงานสแกน+แอป = Mobile Computer
  3. ระยะสแกน: ระยะปกติ vs Long-range (ยิงชั้นสูงหรือจากรถยก)
  4. พื้นผิวฉลาก: ฉลากโค้ง/ซีด/สะท้อน/จิ๋ว → เลือกออปติกเฉพาะทาง
  5. สภาพแวดล้อม: ฝุ่น/น้ำ → เลือก IP สูง, ห้องเย็น → Freezer-rated, โซนอันตราย → ATEX/IECEx
  6. การเชื่อมต่อระบบ: POS/พีซี → USB/RS-232, งานคลัง/เรียลไทม์ → Wi-Fi/BT
  7. ซอฟต์แวร์/อัปเดต: ถ้าเป็น Mobile Computer ควรดู Android เวอร์ชันรองรับ, ความสามารถ MDM/Android Enterprise
  8. งบประมาณ & TCO: อย่าดูแค่ราคาเครื่อง พิจารณา Downtime, อะไหล่, ศูนย์บริการ

💰 ช่วงราคาระดับ (โดยประมาณ)

  • มีสาย 1D/2D: ระดับเริ่มต้น–กลาง เหมาะจุดประจำ
  • ไร้สาย 2D + Cradle: ระดับกลาง–สูง ขึ้นกับแบตและระยะ
  • Wearable/Ring: ระดับกลาง–สูง เน้นประสิทธิภาพหยิบสินค้า
  • Fixed-mount: กว้างมากตามออปติกและความเร็วสายพาน
  • Mobile Computer Android: ระดับกลาง–สูง ขึ้นกับสเปก/ความทนทาน

หมายเหตุ: ราคาแตกต่างตามสเปกจริง/ออปชัน/การรับประกัน แนะนำให้ ขอใบเสนอราคา เพื่อเปรียบเทียบ

🏷️ เคสการใช้งานยอดนิยม & ตัวเลือกแนะนำ

  • หน้าร้าน/แคชเชียร์: ตั้งโต๊ะ หรือมีสาย 2D → ยิงเร็ว อ่านจอมือถือได้
  • จุดรับ-จ่าย/แพ็กกิ้ง: ไร้สาย 2D + Cradle → คล่องตัว
  • หยิบสินค้า (Picking): Wearable/Ring → สองมือทำงาน เร็วขึ้น
  • ไลน์ผลิต/คอนเวเยอร์: Fixed-mount → อัตโนมัติ ปริมาณมาก
  • คลัง/ภาคสนาม: Mobile Computer Android → เชื่อมระบบสด ทำงานครบจบเครื่องเดียว
  • ห้องเย็น/คลังแช่แข็ง: รุ่น Freezer-rated → เลนส์ anti-fog/ซีลแน่น
  • โซนอันตราย: รุ่นรับรอง ATEX/IECEx → ความปลอดภัยสำคัญที่สุด

⚠️ ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการเลือกซื้อ

  1. เลือก 1D แต่ต้องอ่าน QR/2D ในอนาคต → แนะนำ 2D Imager ตั้งแต่แรก
  2. ไม่คำนึงระยะจริง → ยิงไม่ถึงชั้นสูง/กล่องไกล ต้องเปลี่ยนรุ่น
  3. ไม่ดูสภาพแวดล้อม → น้ำ/ฝุ่น/ความเย็นทำให้พังไว
  4. ละเลยบริการหลังการขาย → ไม่มีอะไหล่/ซ่อมนาน ส่งผล Downtime

❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

ต้องการอ่านทั้ง 1D และ 2D ควรเลือกรุ่นไหน?

เลือก 2D Imager จะอ่านได้กว้างสุด ทั้ง 1D/2D/QR และหน้าจอมือถือ คุ้มกว่าระยะยาว

จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องใช้ระยะ Long-range?

วัดระยะยิงจริงจากตำแหน่งผู้ใช้ถึงฉลาก/ชั้นวาง หากเกินระยะปกติ (เช่น ยิงจากรถยกหรือชั้นสูง) ให้พิจารณาโมดูล Long-range

งานหนัก/เปียกฝุ่น เลือก IP เท่าไรดี?

อย่างน้อย IP54 สำหรับสำนักงาน/หน้าร้าน, IP65–IP67 สำหรับคลัง/ภาคสนามหรือสภาพแวดล้อมหนัก

ควรเลือกมีสายหรือไร้สาย?

จุดประจำ/หน้าคอม → มีสาย (เสถียร/ถูก), งานเดินคลัง/หยิบของ → ไร้สาย (คล่องตัว) พร้อม Cradle ชาร์จ

Mobile Computer คุ้มไหมถ้าแค่สแกน?

ถ้างานต้องอัปเดตสต๊อกเรียลไทม์/ใช้แอป WMS/ERP/พิมพ์ฉลาก → คุ้มมาก เพราะสแกน+ระบบจบในเครื่องเดียว

📖 บทความ/สินค้าที่เกี่ยวข้อง

✅ สรุป & วิธีเลือกให้คุ้มที่สุด

อย่าลืมดู ระยะยิงจริง, สภาพแวดล้อม, ระดับ IP, บริการหลังการขาย และคิดต้นทุนรวม (TCO) เสมอ

ต้องการให้ทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยแมตช์รุ่นกับงานของคุณ? ขอใบเสนอราคา / นัดเดโม ได้ทันที 
All Business Center มีศูนย์บริการในไทยและพร้อมดูแลตลอดอายุการใช้งาน

Similar Posts